เกษียณสุข อย่างไร เมื่อพูดถึงวัยเกษียณดูเหมือนจะห่างไกล สำหรับใครหลายๆ คน แต่อย่าลืมว่าแต่ละปีผ่านไปเร็วแค่ไหน หากมองดูตัวเอง จะสามารถเก็บเงินได้เดือนละเท่าไหร่จากนี้ถึงอายุ 60 ปี? ผลลัพธ์อาจแย่มาก เพราะไม่ค่อยจะเทียบกับค่าครองชีพจะขึ้นตามสัดส่วน สำหรับอัตราเงินเฟ้อในอนาคตจะต้องเก็บและใช้แยกกันจนถึงอายุ 70-80 ปี
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสิ่งที่เราควรทำคือวางแผนชีวิตหลังเกษียณตั้งแต่วันนี้ อย่ารอให้วันเวลาผ่านไป จนรู้ว่าเราเริ่มสายไปจนสายไป
4 เทคนิค ทำยังไงให้มีเงินเก็บ ให้พอใช้ชีวิตหลังเกษียณ เกษียณสุข
1. เกษียณสุข เพิ่มรายได้ / หรือเริ่มวางแผนเกษียณเร็วขึ้น
หารายได้ให้นานขึ้น เกษียณให้ช้าลง
เป็นการเพิ่มรายได้จากการทำงาน
ยิ่งคุณทำงานนานขึ้น มากขึ้น
คุณก็จะมีเงินเก็บมากขึ้นตามไปด้วย
แต่ถ้าหยุดทำงานเมื่อไหร่
นั่นคือเมื่อเกษียณ รายได้ส่วนนี้จะหายไป
เช่น หากคุณยืดเวลาเกษียณ
หรือเริ่มวางแผนเกษียณเร็วขึ้น เพิ่มขึ้น 5 ปี
ด้วยเงินเดือน 80,000 บาท โดยไม่มีการปรับเงินเดือนขึ้น
คุณจะมีเงินเก็บเพิ่ม 4,800,000 บาท
ในขณะที่จำนวนปีหลังเกษียณของคุณก็ลดลงอีกด้วย
2.ลดค่าใช้จ่ายตั้งแต่ปัจจุบัน
ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเอง
ให้ใช้เงินอย่างรอบคอบ ไม่ฟุ่มเฟือย
เพื่ออนาคตในวันข้างหน้า
3. เกษียณสุข ออมเงินให้มากขึ้น
หลายๆ คน อาจจะบังคับออมเงินด้วยการ
หักสัดส่วน % ของรายได้มาเป็นเงินเก็บ
ยิ่งมีรายได้มากขึ้นก็จะมีเงินเก็บมากขึ้น
โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแผนออมทรัพย์จาก
เก็บออมทุกเดือนเพื่อเป้าหมาย
และปฏิบัติตามระเบียบวินัย
การวางแผนเกษียณ อาจจะต้องใช้เวลาหลายปี
แต่ถ้าเรามีวินัยทางการเงินรับรองเลยว่าไม่ยาก
ยิ่งเริ่มต้นเร็วเราก็ยิ่งมีเงินออมมากขึ้น
อยากมีชีวิตหลังเกษียณที่สามารถออกแบบได้เอง
ตัวช่วยที่ช่วยสร้างวินัยในการออม
เริ่มต้นวางแผนง่ายๆ เช่น วางแผนผ่านประกันออมทรัพย์
แบบประกันที่ให้ทั้งความคุ้มครองก่อนเกษียณ พร้อมรับเงินคืน
ไว้ดูแลในยามขั้นปลายอย่างมีความสุข
จากเมืองไทยประกันชีวิต
4 ลงทุน (Passive income)
นำเงินที่มีไปลงทุนให้ถูกที่
ให้เงินทำงานและงอกเงยขึ้นเอง
เป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้
โดยที่คุณไม่ต้องอยู่กับมันตลอดเวลา
เหมือนการทำงานประจำ
ถ้ายิ่งออมเร็วก็จะได้รับผลตอบแทน
จากดอกเบี้ยทบต้นมากขึ้น
เลือกช่องทางการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของคุณ
สามารถยอมรับได้เอง และควรมีแผนเป็นลายลักษณ์อักษร
ประหยัดการลงทุนและการดำเนินการตามแผนอย่างเคร่งครัด
.
.
การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเกษียณอายุหรือ RMF
ถือเป็นแหล่งเงินทุนหลักในการเกษียณอายุและมีครบทุกอย่าง
เพราะกองทุนรวม RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี
และต้องลงทุนถึงอายุ 55 ปี
ข้อดีอีกประการของการปล่อยให้ RMF มีวินัยในตนเองในการลงทุนคือ เราสามารถเปลี่ยนการลงทุนของคุณจากความเสี่ยงสูงเป็นความเสี่ยงต่ำได้ ในบรรดาหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพมีหลายประเภทให้เราเลือกตามความต้องการซึ่งเหมาะสำหรับการจัดพอร์ตการลงทุน ด้วยการลดความเสี่ยงใกล้เกษียณ
นอกจาก RMF แล้ว ยังมีกองทุนรวมอื่นๆ ที่น่าสนใจที่สามารถลงทุนขยายยอดเกษียณให้เติบโตได้ดี แต่ความเสี่ยงไม่สูงมาก
หลายท่านอาจบ่นว่าไม่สนใจลงทุนและอาจชอบรูปแบบที่ไม่ต้องเสี่ยงมาก เรามีทางเลือกเพิ่มเติม เช่น ประกันชีวิต ฉลาดไว้ก่อน แม้ว่าผลตอบแทนจะไม่ดีเท่ากองทุนก็ตาม แต่การมีประกันแบบนี้มีข้อดีหลายอย่าง หลักๆ คือช่วยให้เราเตรียมตัวอย่างมั่นใจและได้เงินคืนเป็นหลักประกัน ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและได้รับการคุ้มครองชีวิตและสิทธิลดหย่อนภาษีและ
การลงทุนแผนแบบประกันควบการลงทุน ที่จะนำเงินของคุณไปลงทุนในกองทุน ที่มีทั้งแบบที่การันตีผลตอบแทน ไม่มีการขาดทุน เช่น แบบประกัน UL Plus หรือแบบประกันที่เลือกลงทุนเองตามความเสี่ยงที่รับไหว สับเปลี่ยนกองทุนได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม แบบประกัน ยูนิต ลิงค์